บทความ

นิทานอีสป เรื่อง มดกับดักแด้ ผู้แต่ง : อีสป ในวันอากาศแจ่มใส มดตัวหนึ่งกำลังวิ่งออกหาอาหารอย่างคล่องแคล่ว มันเดินข้ามผ่านดักแด้ตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายจากดักแด้เป็นผีเสื้อ ดักแด้ที่ขยับหางของมัน ทำให้มดจ้องมองด้วยความสนใจ และรู้ว่าสิ่งที่มันเห็นมีชีวิต เจ้ามดไม่เคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน มันรู้สึกไม่ค่อยชอบและนึกรังเกียจ       “น่าสงสารจริง ๆ เลย”  มดร้องด้วยเสียงเหยียดหยัน  “เจ้านี่ช่างมีโชคชะตาที่น่าเศร้าอะไรเช่นนี้ ในขณะที่ข้าสามารถที่จะวิ่งไปไหนมาไหนได้ตามที่ใจต้องการ ปีนขึ้นยอดต้นไม้ แต่เจ้าได้แต่นอนนิ่งในเปลือกของตัวเองอยู่ตรงนี้และมีแรงแค่ขยับหางเท่านั้น”     ดักแด้ได้ยินคำเหยียดหยันที่มดพูดออกมาทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบใด ๆ       ไม่กี่วันต่อมา เมื่อมดตัวดังกล่าวเดินผ่านมาทางนั้นอีกครั้ง ก็ไม่พบสิ่งใดอีก นอกจากเปลือกของดักแด้ที่ยังคงอยู่บริเวณนั้น มันประหลาดใจว่าสิ่งที่อยู่ในเปลือกกลายไปเป็นอะไร มดรู้สึกทันทีว่าตัวเองกำลังได้รับร่มเงาจากปีกที่สวยงามของผีเสื้อ        “เห็นข้าไหม”  ผีเสื้อ...
นิทานอีสป เรื่อง คางคกจอมโว ผู้แต่ง : อีสป   คางคกเฒ่าตัวหนึ่งป่าวประกาศไปทั่วถิ่นที่มันอยู่ว่ามันเป็นหมอผู้รอบรู้และเยียวยาได้ทุกโรค เมื่อหมาจิ้งจอกได้ยินข่าวนี้จึงเร่งรุดมาพบคางคก มันมองคางคกอย่างพินิจพิเคราะห์               "เจ้าคางคก"   มันเอ่ยขึ้น  "ข้าได้ยินคำบอกเล่ามาว่าเจ้ารักษาโรคอะไรก็ได้ แต่ดูตัวเจ้าเองก่อนเถิด แล้วลองใช้ยาของเจ้าดู ถ้าเจ้ารักษาผิวหนังตะปุ่มตำป่ำและท่าเดินเหมือนเป็นไขข้ออักเสบของเจ้าได้ ก็คงมีใครเชื่อเจ้า ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องแนะนำให้เจ้าลองไปหาอาชีพอื่นๆ ดู" :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: คนที่จะรักษาคนอื่นได้ ควรรักษาตัวเองให้ได้เสียก่อน :: พุทธภาษิต :: อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา     รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา      ยถญฺญมนุสาสติ ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น
นิทานอีสป เรื่อง เม่นกับงู ผู้แต่ง : อีสป เม่นตัวหนึ่งกำลังมองหาบ้านดีๆ สักหลัง ท้ายสุดมันพบถ้ำเล็กๆ ที่มีกำบังซึ่งมีครอบครัวงูอาศัยอยู่ก่อนแล้ว มันถามพวกงูว่าจะอนุญาตให้มันเข้าไปอยู่ในถ้ำได้ไหม งูตอบตกลงด้วยความใจดี                ไม่ช้าไม่นาน  งูก็คิดว่าไม่น่าอนุญาตให้เม่นเข้ามาอยู่ด้วยเลย ขนแหลมๆ ของเม่นทิ่มแทงพวกมันทุกครั้งที่หมุนตัว และในที่สุด พวกมันก็ต้องขอร้องให้เม่นจากไปอย่างสุภาพ               "ข้าพอใจที่นี่มากเลย ขอบคุณนะ"   เม่นกล่าว   "ข้าตั้งใจแล้วละว่าจะอยู่ที่นี่"  ว่าแล้วมันก็ค่อยๆ ตามไปส่งพวกงูที่นอกประตู และเพื่อปกป้องผิวหนังของพวกมัน งูจึงต้องหาบ้านใหม่ในที่สุด :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: เสียสละนิ้วมือ ในที่สุดก็จะเสียทั้งมือ :: พุทธภาษิต :: ชิเน กทริยํ ทาเนน  พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้
รูปภาพ
นิทานอีสป เรื่อง มดกับลิง ผู้แต่ง : อีสป ลิงตัวหนึ่งปีนขึ้นไปนั่งกินผลไม้บนต้นไม้ ขณะที่มันกำลังกินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยนั้นก็มีมดตัวหนึ่งมากัดที่ฝ่าเท้ามัน  "โอ๊ย! เจ้ามากัดข้าทำไม ข้าไปทำอะไรให้"  ลิงถาม   "ก็นี่มันที่ของข้า ใครเข้ามาข้าก็กัดหมดนั่นแหละ"   มดตอบ  "ทั้ง ๆ ที่ข้าไม่เคยคิดจะทำอะไรเจ้าเลยเนี่ยนะ"  ลิงถามด้วยความโมโห  "ก็ใช่นะสิ"   มดยืนยันเสียงแข็ง  "ในเมื่อเจ้ามากัดข้าก่อน ข้าก็ชักอยากจะกินมดขึ้นมาเสียแล้วล่ะ"  พูดจบเจ้าลิงก็จับมดเข้าปากเคี้ยวทันที :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: การข้องเกี่ยวกับคนพาลมักจะเดือดร้อนในสิ่งที่ตนเองกระทำ :: พุทธภาษิต :: นตฺถิ พาเล สหายตา ความเป็นสหาย ไม่มีในคนพาล วิ . มหา. ๕/ ๓๓๖. ม. อุ. ๑๔/ ๒๙๗. ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๓, ๕๙
รูปภาพ
นิทานอีสป เรื่อง นกกระยางเรื่องมาก นกกระยางตัวหนึ่งค่อยๆ เยื้องย่างไปตามฝั่งลำธาร สายตาจับจ้องน้ำใสแจ๋ว ลำคอยาวและจะงอยปากแหลมของมันพร้อมจะจิกอาหารชิ้นเล็กๆ เป็นมื้อเช้า ในน้ำใสมีฝูงปลามากมาย แต่คุณชายนกกระยางก็ไม่ชื่นชมยินดีกับเช้าวันนั้นแม้แต่น้อย           "ข้าไม่กินปลาตัวเล็กตัวน้อยหรอก"   มันเอ่ยขึน พวกปลาซิวปลาสร้อยไม่เหมาะกับนกกระยางสักนิด         ทันใดนั้นก็มีปลาเพิร์ชน้อยงดงามว่ายเข้ามาใกล้ๆ  "ก็ยังไม่ใช่อีกนั่นละ"  นกกระยางพูด  "ข้าไม่เสียแรงอ้าปากเพื่อของพรรค์นั้นอยู่แล้ว!"          เมื่อดวงอาทิตย์ลอยสูง ฝูงปลาก็ว่ายจากน้ำตื้นแถวริมตลิ่งดำลงสู่น้ำเย็นที่ลึกกว่ากลางลำธาร คราวนี้นกกระยางไม่เห็นปลาหลงเหลือสักตัว สุดท้ายมันอดดีใจไม่ได้ที่อย่างน้อยก็อุตส่าห์ได้หอยทากตัวจิ๋วมาเป็นอาหารเช้าตัวหนึ่ง  :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: อย่าเรื่องมากเกินไป มิฉะนั้นอาจเหลือแต่สิ่งที่แย่ที่สุด หรือไม่ก็ไม่ได้อะไรเลย :: พุทธภาษิต ::  อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐฺ...

จั๊กจั่นกับมดง่าม

รูปภาพ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…มีจั๊กจั่นเจ้าสำราญตัวหนึ่งมีนิสัยเกียจคร้าน ชอบความสะดวกสบาย ตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มดง่ามพากันหาอาหารไปเก็บสะสมไว้ในรัง แต่เจ้าจั๊กจั่นมัวแต่ร้องรำทำเพลง สนุกสนานไปวันๆ    ครั้นถึงฤดูหนาวหิมะตกหนัก มดง่ามเก็บตัวอยู่กับเม็ดพืชที่มันได้หาเก็บเตรียมพร้อมไว้ ส่วนจั๊กจั่นนั้นไม่สามารถหาอาหารกินได้ อดอยู่หลายวัน       จนในที่สุด ต้องซมซานด้วยความหิวโหยมาเคาะประตูรังของมดง่ามที่เคยรู้จักกัน  “ได้โปรดเถิด ข้าขาดอาหารมาตั้งหลายวัน ขออาหารให้ข้ากินประทังความหิวหน่อยได้หรือไม่ ข้าสัญญาว่าเมื่อพ้นฤดูฝนนี้ไปแล้ว ข้าสัญญาว่าจะหามาใช้คืนให้เป็นเท่าตัว”  เจ้าจั๊กจั่นพยายามวิงวอน     มดง่ามถึงถามขึ้นมาว่า  “แล้วในฤดูร้อนมีออาหารอุดมสมบูรณ์ ใครๆเขาพากันทำมาหากินตัวเป็นเกลียว เจ้าไปทำอะไรมาจึงไม่หาอาหารมาเก็บใว้เล่า”       จั๊กจั่นตอบว่า  “เพราะว่าข้าไม่มีเวลาน่ะสิ ข้ายุ่งอยู่กับการร้องเพลงตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เมื่อตอนที่เจ้าและเพื่อนๆขนอาหารผ่านมา ก็ได้ยินมิใช่หรือ ครั้นพอถึงฤดูฝน ก็ไม่มีอาหารเหลือให้เก็...

ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ

รูปภาพ
วันหนึ่งเกิดลมพายุใหญ่พัดกระหน่ำรุนแรงไปทั่วทั้งป่า ต้นโอ๊กต้นหนึ่งไม่อาจต้านแรงลมไหว จึงโค่นลงมาแบบถอนรากถอนโคน  แต่ต้นอ้อเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ กลับไม่เป็นอะไรเลย ต้นโอ๊กแปลกใจมากจึงถามต้นอ้อว่า "พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ต้นไม้เล็กๆ ที่บอบบางและอ่อนแอ แต่ทำไมเวลาโดนพายุ พวกเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย"  ต้นอ้อจึงตอบว่า  "ก็เพราะท่านทำตัวแข็งต้านกระแสลม ท่านจึงโค่นล้มได้ง่าย แต่พวกเราโอนอ่อนไปตามแรงลม จึงรอดพ้นจากพายุในครั้งนี้มาได้โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ยังไงล่ะ" :: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: ผู้อ่อนน้อมย่อมสามารถอยู่รอดได้ดีกว่าผู้ที่แข็งกร้าว :: พุทธภาษิต :: “ในที่ใด ยังไม่รู้จักคนโดยกำเนิด หรือโดยขนบประเพณี เมื่ออยู่ในที่นั้น หมู่คนที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ควรทำความถือตัว”